แอป office lens ช่วยให้มือถือเราสามารถถ่ายภาพเอกสารแล้วเก็บไฟน์เหมือนเรา scan ด้วย scanner เลย
ที่สะดวกคือไม่จำเป็นต้องตั้งมือถือให้ตรงกับเอกสารมากนัก
ดูแลระบบคอมพิวเตอร์ Outsource Service HelpDesk IT Service 081-870-4551 Line OA @thaiload
แอป office lens ช่วยให้มือถือเราสามารถถ่ายภาพเอกสารแล้วเก็บไฟน์เหมือนเรา scan ด้วย scanner เลย
ที่สะดวกคือไม่จำเป็นต้องตั้งมือถือให้ตรงกับเอกสารมากนัก
ลองใช้แอป Krungthai Next ใน มือถือ จ่ายค่าน้ำประปา ด้วยการ Scan QR Code
อ้างอิงจาก เว็บ https://www.airvisual.com/
เข้า Web https://www.remove.bg/
แล้วเลือกรูปที่ต้องการ
เข้าที่ setting หรือ การตั้งค่า
ไปที่ เสียงและการสั่นเตือน
ไปที่หัวข้อ สั่น แล้ว ติ๊กที่ สั่นเมื่อมีสายเรียกเข้าด้วย
จีนไม่เพียงเป็นประเทศไทยมีความเติบโตทางด้านเศรษฐกิจ ในด้านเทคโนโลยีจีนก็มีการพัฒนาไปไกลมากจนหลายๆ อย่างเรียกได้ว่าล้ำหน้าหลายๆ ประเทศไปแล้ว เช่นเรื่องของการพัฒนา AI หรือหุ่นยนต์ปัญหาประดิษฐ์
เทคโนโลยีหนึ่งเกี่ยวกับ AI ที่จีนมีความก้าวหน้าคือ เรื่องของการพัฒนาผู้ประกาศข่าว AI ซึ่งในช่วงปลายปี 2018 เคยเปิดตัวผู้ประกาศข่าวชายไปแล้ว มาถึงต้นปี 2019 ได้มีการเปิดตัวผู้ประกาศข่าวหญิงบ้าง ซึ่งนับว่าเป็นครั้งแรกของโลกเลยทีเดียว
การพัฒนาผู้ประกาศข่าว AI ทั้งชายและหญิงเป็นโครงการที่เป็นความร่วมมือกันระหว่างสำหนักข่าวซินหัวและโซวโก่ว (Sogou) บริษัทผู้ผลิตเว็บไซต์ค้นหาข้อมูลรายใหญ่ของจีน โดยผู้ประกาศข่าวหญิง AI รายนี้มีชื่อว่า ซิน เสี่ยวเหมิง (Xin Xiaomeng) ถูกพัฒนาให้สามารถอ่านข่าวได้ชนิดที่ว่าเนียนมากทั้งลักษณะท่าทางและการพูดจา ซึ่งถ้าดูในวิดีโอจะเห็นว่าหากไม่บอกว่านี่คือ AI คงไม่มีใครรู้อย่างแน่นอน
การกำหนดลักษณะท่าทางให้กับ ซิน เสี่ยวเหมิง (Xin Xiaomeng) ผู้พัฒนาได้อ้างอิงและอาศัยพื้นฐานจาก ชีว์ เหมิง ผู้ประกาศข่าวของสำนักข่าวซินหัวที่มีตัวตนอยู่จริงมาประยุกต์ใช้กับ AI
ซิน เสี่ยวเหมิง ถูกพัฒนาขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์ในการลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ซึ่งสามารถทำงานได้ 24 ชั่วโมงไม่ว่าจะบนแพลตฟอร์มใดก็ตาม
เป็นอีกหนึ่งการพัฒนาที่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพทางด้านเทคโนโลยีของจีนที่มีความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง
เป็นข่าวที่สร้างความฮือฮาไม่น้อยรับปี 2019 กับเรื่องที่มีการแชร์กันว่า DTAC กำลังจะขายมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าด้วย
เรื่องนี้ถูกเปิดเผยอย่างชัดเจนถึงแนวทางการดำเนินธุรกิจของ DTAC ในงาน Thailand Mobile Expo 2019 ซึ่งสรุปได้ว่า DTAC จะขายมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าจริง แต่เป็นในลักษณะของการร่วมมือกันกับพาร์ทเนอร์หลายๆ ฝ่าย ไม่ได้หมายความว่า DTAC จะเปลี่ยนหรือเพิ่มไลน์ธุรกิจใหม่ การจำหน่ายหรือให้บริการมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าของ DTAC ยังคงอยู่บนพื้นฐานของการเป็นผู้ให้บริการแพลตฟอร์มเกี่ยวกับ EV Connectivity ในฐานะของโอเปอเรเตอร์เช่นเดิม โดยจะให้บริการลักษณะต่างๆ เช่น การให้ผู้ใช้รถเชื่อมต่อกับบริษัทประกัน เชื่อมต่อบริษัทเช่าซื้อและสถาบันการเงิน หรือเชื่อมต่อบริการเปลี่ยนแบตเตอรี่ผ่านเครือข่ายไตรเน็ตของดีแทค
นอกจากนั้นประโยชน์ที่ผู้ใช้รถจะได้รับเพิ่มเติมก็คือเรื่องของการตรวจสอบสถานะแบตเตอรี่ออนไลน์ การค้นหาเส้นทาง การป้องกันการโจรกรรม เป็นต้น โดยระบบและฟีเจอร์ต่างๆ นั้นอยู่ในขั้นตอนของการพัฒนาที่คาดว่าจะได้เห็นกันในเร็วๆ นี้
สำหรับพาหนะหรือยานยนต์ไฟฟ้าที่ดีแทคจะนำเสนอ ในเบื้องต้นคาดว่าจะเป็นส่วนของมอเตอร์ไซค์ก่อนตามที่เป็นข่าว มีกำหนดการว่าจะเปิดตัวอีกครั้งในช่วงกลางปี 2019 โดยพาร์ทเนอร์รายสำคัญที่เข้ามาร่วมกับ DTAC ในครั้งนี้ก็คือ ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส หรือ FSMART เจ้าของตู้บุญเติมที่คุ้นเคยกันนั่นเอง
เพิ่มเติมข้อมูลเรื่องมอเตอร์ไซค์สักเล็กน้อย ตามภาพที่เห็นแชร์ๆ กันนั้น จะเห็นว่าเป็นมอเตอร์ไซค์ประเภทสกูตเตอร์แนวคูลๆ ยี่อ Edison Motors รุ่น Volta มีทั้งรุ่นที่ใช้แบตเตอรี่ 1.7 กิโลวัตต์ชั่วโมง ที่วิ่งได้ระยะทางประมาณ 75 กม. และรุ่นที่ใช้แบตเตอรี่ 3.4กิโลวัตต์ชั่วโมง ที่วิ่งได้ไกลขึ้นสองเท่าคือ 150 กม. สนนราคาคาดว่าจะอยู่ในช่วงประมาณ 80,000 – 120,000 บาท
ค่อยๆ มีออกมาให้เห็นเรื่อยสำหรับการนำเทคโนโลยี AI มาใช้ในธุรกิจต่างๆ ทั้งการผลิตและการบริการ สำหรับข่าวนี้เป็นการให้บริการของ AIS ในส่วนของศูนย์บริการซึ่งตอนนี้ได้เปิดศูนย์บริการต้นแบบที่ไม่ต้องใช้พนักงานขึ้นแล้วเป็นแห่งแรกมีชื่อว่า AIS Digit All
AIS Digit All ศูนย์บริการที่ไม่ต้องใช้พนักงานแห่งแรกนี้อยู่ที่ ศูนย์การค้า เซ็นทรัล ภูเก็ต ฟลอเรสต้า จังหวัดภูเก็ต ภายในศูนย์บริการจะไม่มีเคาน์เตอร์แบบเดิมๆ อีกต่อไปแต่จะเรียงรายไปด้วยตู้เซอร์วิสเพื่อให้บริการต่างๆ และ AI หรือหุ่นยนต์ที่มีชื่อว่า Lisa คอยเป็นผู้ช่วยและให้บริการแทนพนักงานที่เป็นมนุษย์
โซนต่างๆ จะแบ่งได้หลักๆ 4 โซนดังนี้
จุดเด่นของบริการนี้คือความรวดเร็วเพราะแทบจะไม่ต้องรอคิว เพราะการให้บริการต่างๆ แยกโซนไว้อย่างชัดเจน ใครต้องการทำสิ่งใดก็ไปยังโซนที่ต้องการได้เลย อีกทั้ง Lisa ก็จะคอยเป็นผู้ช่วยวนเวียนอยู่โดยรอบ ตลอดจนเรื่องของการจ่ายเงินก็เป็นแบบ Cashless จ่ายได้ง่ายๆ เพียงแค่สแกน QR Code
เชื่อว่าการใช้งานครั้งแรกๆ อาจจะติดขัดบ้าง ทั้งนี้ในศูนย์บริการ AIS Digit All จะยังคงมีพนักงานส่วนหนึ่งไว้คอยให้ความช่วยเหลือ หมายถึงให้คำแนะนำการใช้งาน แต่จะไม่ได้ให้บริการหรือช่วยทำธุรกรรมใดแทนให้
เพื่อให้เห็นภาพลองดูวิดีโอแนะนำบริการของ AIS ด้านล่างประกอบจะได้เห็นภาพและเข้าใจได้ง่ายขึ้น เชื่อว่าอีกไม่นานศูนย์บริการแบบนี้คงกระจายไปทั่วประเทศและเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ
ส่วนตัวผมว่า Google Maps ที่เป็นอยู่ตอนนี้ก็ถือว่าใช้งานได้ดีในระดับหนึ่งแล้วนะ ช่วยให้การเดินทางไปยังสถานที่ที่เราไม่เคยไปทำได้ง่ายขึ้น (แม้บางครั้งในบางเส้นทางจะพาหลงเข้าป่าเข้าพงไปบ้างก็ตามที)
ถึงอย่างนั้น Google ก็ยังคงไม่หยุดพัฒนาความสามารถ โดยล่าสุดมีข่าวว่าฟีเจอร์ที่จะมีการใช้ AR เข้ามาช่วยนำทางซึ่ง Google ได้เคยประกาศไว้ในงาน I/O ปี 2018 ที่เรียกว่า Google Maps AR อาจจะเปิดให้ใช้งานได้ในอีกไม่นานนี้
ถ้าใครไม่ได้ตามข่าวในตอนนั้นว่าฟีเจอร์นี้คืออะไร Google Maps AR ก็คือ การนำเอาเทคโนโลยี AR เข้ามาช่วยในการแสดงสัญลักษณ์บอกทางเพื่อให้ผู้ใช้แอปพลิเคชั่นเข้าใจได้ง่ายขึ้น เช่น เดิมทีแอป Google Maps ที่เราใช้อยู่ เวลาแอปบอกว่าอีก 60 เมตรเลี้ยวซ้าย บางทีเราก็สับสนว่าซอยไหนกันแน่ โดยเฉพาะจุดไหนที่มีซอยอยู่ใกล้ๆ กัน
ดังนั้นหากมี AR เข้ามาช่วย ถ้าเราถือโทรศัพท์ตั้งขึ้นส่องไปข้างหน้านอกจากจะมีสัญลักษณ์ที่เป็นลูกศรเลี้ยวซ้ายเดิมตรงมุมบนของหน้าจอตามปกติแล้ว ต่อไปจะมีสัญลักษณ์ลูกศรตัวใหญ่ๆ แสดงขึ้นมาบนหน้าจอให้เราเห็นชัดๆ อีกด้วย (ดูภาพประกอบ) เอาให้ชัดกันสุดๆ ไปเลย
Source : androidauthority.com