มาถึงไทยแล้ว! สีใหม่จาก Dyson ที่ทุกคนรอคอย สี ‘เซรามิกป๊อป’ สุดน่ารัก พร้อมให้เป็นเจ้าของแล้ว 13 มกราคมนี้

  • สีใหม่สุดพิเศษนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากสีของเครื่องดูดฝุ่น Dyson G-Force ที่จำหน่ายในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นประเทศแรกที่เปิดตัวเทคโนโลยี Dyson
  • พาเลทสีได้รับการออกแบบมาอย่างพิถีพิถันเช่นเดียวกับผลิตภัณฑ์ของ Dyson พัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งทั้งในด้านเทคโนโลยีและความสุนทรีย์
  • สีพิเศษนี้ใช้กับเครื่องเป่าผม Dyson Supersonic™ และ อุปกรณ์เป่าผมและจัดแต่งทรง Dyson Airwrap™
  • ผลิตภัณฑ์สำหรับเส้นผมในสีเซรามิกป๊อปวางจำหน่ายที่ Dyson Demo Stores ทุกสาขาและช่องทางออนไลน์ Dyson.co.th ตั้งแต่วันที่ 13 มกราคม 2567

กรุงเทพฯ 12 มกราคม 2567 – Dyson เปิดตัวสีใหม่ล่าสุด “เซรามิกป๊อป” (Ceramic Pop) ในผลิตภัณฑ์สำหรับเส้นผมในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ถือเป็นสีที่หลายคนตั้งตารอ เพราะก่อนหน้านี้มีวางจำหน่ายแค่ในประเทศญี่ปุ่นเพื่อเป็นการฉลองครบรอบ 25 ปี ของ Dyson ในประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น สีเซรามิกป๊อปเป็นการผสมผสานของ 3 สีสุดสดใสอย่าง สีชมพูบลัชพิงก์ (Blush Pink) สีเซรามิกโทแพซ (Ceramic Topaz) และสีเซมิกพาติน่า (Ceramic Patina) โดยในประเทศไทยจะมาใน 2 ผลิตภัณฑ์ได้แก่ เครื่องเป่าผม Dyson Supersonic™ และ อุปกรณ์เป่าผมและจัดแต่งทรง Dyson Airwrap™

การผสมผสานสีสันอันโดดเด่นในรูปแบบที่สนุกสนานนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากโทนสีของเครื่องดูดฝุ่น Dyson รุ่น G-Force ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์เครื่องแรกของ Dyson และวางจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่นในช่วงปี ค.ศ. 1980 แนวทางการพัฒนาสีที่ออกแบบโดย Dyson ทำให้ผลิตภัณ์ของ Dyson โดดเด่นจากผลิตภัณฑ์อื่นในตลาด ซึ่งยังคงเป็นอย่างนั้นจนถึงปัจจุบัน

เอมมา เชลดอน รองประธานฝ่ายการวิจัย ออกแบบและพัฒนา กลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับเส้นผมจาก Dyson กล่าวว่า “เทคโนโลยีของ Dyson ถือเป็นสิ่งที่บุกเบิกวงการ และคู่สีนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากตัวอย่างแรกๆ ในการใช้สีอย่างสร้างสรรค์ของเรา พวกเราออกแบบสี วัสดุ และการเคลือบเพื่อส่งเสริมเทคโนโลยีและยกระดับประสบการณ์การใช้งานผลิตภัณฑ์ของเรา”

ผิวสัมผัสที่ชวนสัมผัส

ผลิตภัณฑ์ของ Dyson ไม่เพียงแค่มีประสิทธิภาพยอดเยี่ยม แต่ยังมอบความรู้สึกที่เยี่ยมยอดขณะใช้งาน ทั้งวัสดุและผิวสัมผัสของตัวเครื่องผ่านการทดสอบอย่างละเอียดแม่นยำ ไม่ว่าจะเป็นการทดสอบการขัดสีและการทดสอบความทนทานต่อรอยขีดข่วนเพื่อมั่นใจในคุณภาพผิวสัมผัสของผลิตภัณฑ์ว่ามีความทนทานมากพอสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน เพื่อมอบความพึงพอใจสูงสุดให้กับผู้ใช้งาน

ผลิตภัณฑ์สำหรับเส้นผมในรุ่นนี้มาพร้อมผิวสัมผัสแบบ ‘เซรามิก’ ที่มาจากการทาสีซาตินชั้นบางอย่างพิถีพิถัน ให้สัมผัสราวกับแตะแล้วแห้งสนิท (Dry to the touch)  ผลลัพธ์ที่เป็นเลิศนี้มาจากการทดสอบและทดลองมากมายหลายรอบ เพื่อคงผิวสัมผัสที่นุ่มลื่นราวกับแพรไหมของวัสดุเซรามิก

เส้นทางกว่า 25 ปีในประเทศญี่ปุ่น

Dyson มีความสัมพันธ์อันยาวนานและพิเศษกับประเทศญี่ปุ่นผ่านความเป็น “ผู้บุกเบิก” ในหลายด้าน  ย้อนกลับไปในยุค 1980 เจมส์ ไดสัน เปิดตัวเทคโนโลยีไซโคลนครั้งแรกที่ญี่ปุ่นภายใต้ชื่อ ‘G-Force’ และสามารถคว้ารางวัล International Design Fair ณ ประเทศญี่ปุ่น ในปีค.ศ. 1991 ต่อมาในปีค.ศ. 2015 แฟลกชิปสโตร์ Dyson Demo แห่งแรกเปิดตัวในประเทศญี่ปุ่น และผลิตภัณฑ์ไดร์เป่าผม Dyson Supersonic™ ก็เปิดตัวครั้งแรกที่ญี่ปุ่นเช่นกันในปีค.ศ. 2016 นับตั้งแต่วันที่เปิดสำนักงานโตเกียวของ Dyson ในปีค.ศ. 1998 Dyson ในญี่ปุ่นก็ก้าวเข้าสู่ปีที่ 25 และเพื่อเฉลิมฉลองโอกาสพิเศษนี้ Dyson จึงเปิดตัวผลิตภัณฑ์รุ่น Colourway สีสันใหม่สำหรับผลิตภัณฑ์ในหมวดดูแลเส้นผมของเรา

ผลิตภัณฑ์สำหรับเส้นผม Dyson Ceramic Pop วางจำหน่ายที่ Dyson Demo Stores ทุกสาขาและช่องทางออนไลน์ทาง Dyson.co.th ตั้งแต่วันที่ 13 มกราคม 2567 นี้

เครื่องเป่าผม Dyson Supersonic™

A pink and blue hair dryer next to a blue box

Description automatically generatedเครื่องเป่าผม Dyson Supersonic™ ถูกออกแบบมาเพื่อเส้นผมทุกรูปแบบ อีกทั้งยังมีความทรงพลังและรวดเร็ว เครื่องเป่าผมนี้สามารถสร้างกระแสลมความเร็วสูงที่ควบคุมทิศทางได้ ออกแบบให้ถือง่ายและจับได้อย่างสมดุล เงียบกว่าเครื่องเป่าผมทั่วไป และสามารถควบคุมอุณหภูมิได้อย่างชาญฉลาดเพื่อช่วยปกป้องเส้นผมจากความร้อน เครื่องเป่าผม Dyson Supersonic™ แตกต่างจากเครื่องเป่าผมแบบดั้งเดิม ด้วยความสามารถในการวัดอุณหภูมิของกระแสลมถึง 40 ครั้งต่อวินาทีเพื่อควบคุมอุณหภูมิลมที่ปล่อยออกมา เครื่องเป่าผม Dyson Supersonic™ ใช้เทคโนโลยีควบคุมอุณหภูมิอัจฉริยะของ Dyson เพื่อปกป้องเส้นผมจากความร้อนและคงความเงางาม

เครื่องเป่าผม Dyson Supersonic™ ในสี ‘เซรามิกป๊อป’ วางจำหน่ายในราคา 17,900 บาท ที่ Dyson Demo Stores ทุกสาขาและช่องทางออนไลน์ทาง Dyson.co.th

อุปกรณ์จัดแต่งทรง Dyson Airwrap™

A hair curler and a container

Description automatically generatedอุปกรณ์จัดแต่งทรง Dyson Airwrap™ multi-styler ถูกออกแบบใหม่เพื่อให้สามารถจัดแต่งทรงผมได้อย่างรวดเร็วและง่ายดายมากยิ่งขึ้น มาพร้อมกับเทคโนโลยีควบคุมความร้อนอัจฉริยะ ที่ทำให้คุณสามารถจัดแต่งทรงผมได้ตามต้องการ ด้วยอุณภูมิที่ต่ำ และป้องกันการเสียหายของผมที่ได้รับจากการใช้ความร้อนมากจนเกินไป

จุดเด่นของ Dyson Airwrap™ multi-styler คือ Dyson Digital Motor ที่ถูกออกแบบมาเพื่อสร้างเอฟเฟ็กต์ Coanda และพลังงานจากตัวมอเตอร์จะช่วยทำให้เกิดกระแสลมแรงที่พื้นผิวที่หัวต่อของ Dyson Airwrap™ เนื่องจากความแตกต่างของแรงดันลมที่ไหลยึดติดกับพื้นผิวของหัวต่อทำให้เกิดเอฟเฟ็กต์ Coanda  ซึ่งนักอากาศพลศาสตร์ของ Dyson เห็นข้อดีของเอฟเฟ็กต์นี้ จึงได้สร้างวิธีการจัดแต่งทรงผมด้วยการใช้ลมและความร้อน ทำให้ผลรับที่ได้ ไม่ว่าจะเลือกม้วนผมให้เป็นลอน คลื่น ไม่ว่าจะผมเรียบหรือแห้งหยาบ ก็สามารถสร้างลุคที่ธรรมชาติได้พร้อมผมที่ดูเงางาม อุปกรณ์จัดแต่งทรง Dyson Airwrap™ multi-styler มีหัวต่อหลากหลายสามารถเลือกใช้ได้ตามสภาพเส้นผม ความยาว และสไตล์ที่ต้องการ

อุปกรณ์จัดแต่งทรง Dyson Airwrap™ multi-styler ในสี ‘เซรามิกป๊อป’ วางจำหน่ายในราคา 21,900 บาท ที่ Dyson Demo Stores ทุกสาขาและช่องทางออนไลน์ทาง Dyson.co.th

###

เกี่ยวกับ Dyson

Dyson คือบริษัทด้านการวิจัยและเทคโนโลยีระดับโลก ด้วยงานด้านวิศวกรรม วิจัย พัฒนา ผลิต และทดสอบการปฏิบัติการในสิงคโปร์ สหราชอาณาจักร มาเลเซีย เม็กซิโก จีน โปแลนด์ และฟิลิปปินส์ เริ่มต้นจากโรงรถในสหราชอาณาจักร Dyson เติบโตอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ก่อตั้งในปีพ.ศ. 2536 ปัจจุบัน Dyson สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่สิงคโปร์ Dyson ที่โรงไฟฟ้า St. Jame ที่ปรับปรุงใหม่ไปเมื่อเร็วๆ นี้ และมีสำนักงานเทคโนโลยี 2 แห่งในสหราชอาณาจักรภายใต้พื้นที่กว่า 800 เอเคอร์ในมาล์มสบิวรี และฮัลลาวิงตัน และศูนย์กลางการวิจัยและวิศวกรรมอีกกว่า 10 แห่งทั่วโลก ในอนาคต Dyson ยังคงเป็นบริษัทของครอบครัวที่มีพนักงานกว่า 14,000 คนทั่วโลก รวมถึงวิศวกรกว่า 6,000 คน วางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่ Dyson Demo Store และบนช่องทางออนไลน์ใน 85 ประเทศทั่วโลก

Dyson กำลังลงทุนเป็นมูลค่า 2.75 พันล้านปอนด์เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีที่จะเปลี่ยนแปลงโลก Dyson มีทีมวิศวกร นักวิทยาศาสตร์ และนักพัฒนาซอฟต์แวร์ทั่วโลกที่ร่วมพัฒนาแบตเตอรี่แบบโซลิดสเตท ดิจิทัลมอเตอร์ความเร็วสูง ระบบเซนเซอร์และวิชั่น หุ่นยนต์ เทคโนโลยีการเรียนรู้ของเครื่อง และปัญญาประดิษฐ์ ตั้งแต่ประดิษฐ์เครื่องดูดฝุ่นแบบไร้ถุงเครื่องแรกในปี พ.ศ. 2536 Dyson ได้สร้างเทคโนโลยีที่สามารถแก้ปัญหาในหลากหลายแขนง ตั้งแต่การดูแลเส้นผม การกรองอากาศ หุ่นยนต์ โคมไฟ เครื่องเป่ามือ และปัจจุบันในด้านเสียง ได้แก่ Dyson Zone ซึ่งเป็นหูฟังที่สามารถตัดเสียงรบกวนและกรองอากาศได้ พร้อมวางจำหน่ายภายในปีนี้

สถาบันเทคโนโลยีและวิศวกรรมของ Dyson (Dyson Institute of Engineering and Technology) คือรูปแบบใหม่ของการศึกษาวิศวกรรม ผสมผสานความเข้มแข็งด้านวิชาการแบบมหาวิทยาลัย กับประสบการณ์จริงจากการทำงานกับโครงการผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีของบริษัทเทคโนโลยีระดับโลก วิศวกรระดับปริญญาตรี 156 คนของ Dyson ได้รับเงินเดือนตั้งแต่วันแรก และไม่ต้องเสียค่าเล่าเรียน นอกจากนี้กว่า 37% เป็นผู้หญิง ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของวิศวกรระดับปริญญาตรีในประเทศอังกฤษที่ 21% สถาบันนี้ไม่เพียงมอบการศึกษาเท่านั้น แต่ยังเป็นก้าวแรกสู่อาชีพกับ Dyson ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว

มูลนิธิ เจมส์ ไดสัน (James Dyson Foundation)ก่อตั้งขึ้นในปี 2002 เป็นองค์กรการกุศลระดับโลก มุ่งสนับสนุนวิศวกรรุ่นใหม่ ส่งเสริมการศึกษาด้านวิศวกรรม และลงทุนวิจัยการแพทย์ จนถึงปัจจุบันบริจาคเงินไปแล้วกว่า 140 ล้านปอนด์ รางวัลเจมส์ ไดสัน (James Dyson Award) เป็นการประกวดออกแบบประจำปี เปิดรับผลงานจากนักศึกษาและบัณฑิตจบใหม่สายออกแบบและวิศวกรรม ตั้งแต่จุดเริ่มต้นในปี 2005 รางวัลนี้สนับสนุนสิ่งประดิษฐ์กว่า 300 ชิ้นทั่วโลก โดยจัดสรรเงินทุนเพื่อสนับสนุนการนำไปใช้จริงเชิงการค้า ผู้ชนะรางวัลระดับโลก 70% ยังคงพัฒนาสิ่งประดิษฐ์ของตนเองต่อเนื่อง

ครอบครัวไดสัน ก่อตั้ง Dyson Farming ในปี 2012 และมีความเป็นกลางทางคาร์บอนตั้งแต่ปี 2019 ฟาร์มแห่งนี้เป็นธุรกิจการเกษตรขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักร ครอบคลุมพื้นที่ 36,000 ไร่ ในเมือง  Lincolnshire, Oxfordshire, Gloucestershire และ Somerset ธุรกิจครอบครัวนี้ตั้งใจลงทุนระยะยาวเพื่อการเกษตรและชนบทของอังกฤษ เน้นการผลิตอาหารอย่างยั่งยืน ความมั่นคงทางอาหาร และสิ่งแวดล้อม เกษตรกรรมมีโอกาสอย่างแท้จริงที่จะขับเคลื่อนการปฏิวัติเทคโนโลยีและในทางกลับกัน Dyson Farming พัฒนาเทคโนโลยีการเกษตรและการผลิตอาหารที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพ

Dyson Farming ปลูกพืชหลากหลายชนิด เช่น ข้าวสาลี ข้าวบาร์เลย์ มันฝรั่ง หัวหอม ถั่ว และยังเป็นผู้ผลิตถั่วลันเตาที่ใหญ่ที่สุดในสหราชอาณาจักร บริษัทผลิตเนื้อวัว เนื้อแกะ และปลูกสตรอว์เบอร์รี่นอกฤดูในโรงกระจกไฮเทค 15 ไร่ ที่ใช้ความร้อนจากเครื่องย่อยก๊าซชีวภาพ

ผลิตภัณฑ์หลัก

  • Dyson V12s Detect Slim Submarine™ cordless vacuum: เครื่องดูดฝุ่น Dyson รุ่นแรกที่สามารถดูดและถูได้ในเครื่องเดียว มาพร้อมหัวลูกกลิ้งเปียกที่สามารถทำความสะอาดพื้นแข็งด้วยน้ำสะอาดได้ตั้งแต่ต้นจนจบ.
  • Dyson Purifier Big+Quiet Formaldehyde: เครื่องฟอกอากาศที่เงียบแต่ทรงพลังที่สุดของ Dyson มาพร้อมกับตัวกรองที่ประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น กระจายอากาศได้มากกว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 2 เท่า และสามารถดักจับอนุภาคขนาดเล็กพิเศษ ได้ 99.95% กำจัดไนโตรเจนไดออกไซด์ (NO2) ได้มากกว่าตัวกรองคาร์บอนรุ่นก่อนหน้าถึง 3 เท่า รวมถึงสามารถทำลายฟอร์มาลดีไฮด์ได้อย่างถาวร โดยตัวกรอง HEPA มีอายุการใช้งานถึง 5 ปี
  • Dyson Supersonic™ hair dryer: เครื่องเป่าผมที่ช่วยให้ผมแห้งเร็วด้วยแรงลมจาก Dyson digital motor มอเตอร์ขนาดเล็กแต่ทรงพลัง หมุนด้วยความเร็วสูงสุด 110,000 รอบต่อนาที ซึ่งเร็วกว่ามอเตอร์เครื่องเป่าผมอื่นๆ ถึง 6 เท่า ควบคู่กับเทคโนโลยีควบคุมความร้อนอัจฉริยะที่สามารถวัดอุณหภูมิของกระแสลมถึง 40 ครั้งต่อวินาทีและควบคุมความร้อนเพื่อปกป้องเส้นผมจากความร้อนและคงความเงางาม โดย Dyson Supersonic มาพร้อมหัวต่อสำหรับผมประเภทต่างๆ รวมถึงหัวต่อ Flyaway
  • Dyson Airwrap™ multi-styler: อุปกรณ์จัดแต่งทรงผมที่ดีที่สุดและมีประสิทธิภาพที่สุดของ Dyson ได้รับการออกแบบใหม่เพื่อให้จัดแต่งทรงผมได้เร็วและง่ายขึ้น มาพร้อมกับ 13 หัวต่อ ทำให้สามารถจัดแต่งทรงผมได้หลากหลายสไตล์ ทั้งม้วนลอน จัดทรง รวมถึงทำให้ผมเรียบลื่นและซ่อนผมชี้ฟู โดยไม่ทำให้ผมเสียจากความร้อน
  • Dyson Corrale™ straightener:  เครื่องหนีบผมชิ้นเดียวเท่านั้นที่ใช้เทคโนโลยีแผ่นทองแดงแบบโค้งงอ ที่ทำให้ผมไม่กระจายตัวออก และยังสามารถควบคุมการจัดแต่งทรงผมได้โดยใช้ความร้อนที่ไม่สูงเกินไป และไม่ทำร้ายเส้นผม อีกทั้งยังรวบรวมเซ็นเซอร์อัจฉริยะ ที่สามารถวัดและปรับแต่งอุณหภูมิบนแผ่นให้ความร้อนได้ถึง 100 ครั้งต่อวินาที
  • Dyson Solarcycle™ Morph: โคมไฟที่เปลี่ยนแปลงตามแสงธรรมชาติและปรับเปลี่ยนได้อย่างชาญฉลาดตามการใช้งาน ซึ่งจะให้แสงที่ถูกต้อง ถูกเวลา และแม่นยำตามสถานที่ที่ต้องการใช้งาน โดยสามารถติดตามแสงธรรมชาติตามเวลาท้องถิ่นได้ และมอบแสงทั่วทั้งห้องได้ถึง 4 แบบ ทั้งแบบ แสงสว่างทางอ้อม (indirect) แสงสำหรับใช้งานโดยเฉพาะ (task) แสงสว่างแบบส่องเน้น (feature) และ แสงบรรยากาศล้อมรอบ (ambient)