Apple WWDC 2019 ปีนี้มีอะไรอัปเดตบ้าง

เป็นประจำทุกปีที่เราจะได้พบกับการอัปเดตสิ่งใหม่ๆ ของ Apple ในงาน WWDC ในปีนี้มีอะไรอัปเดตบ้างไปดูกันสักหน่อย

tvOS 13  ในปีนี้ tvOS 13 มีการปรับปรุงหน้า Home ใหม่ให้การเข้าถึงคอนเทนต์ต่างๆ มีความสะดวกมากขึ้น ใช้งานง่ายขึ้น สามารถสร้างรูปแบบการใช้งานสำหรับผู้ใช้แต่ละคนที่แตกต่างกันได้ (Multi user) ทางด้าน Apple Music เมื่อเปิดฟังเพลงอะไรก็ตาม ระบบสามารถแสดงเนื้อเพลงตามเพลงที่เปิดได้ ในส่วนของ Arcade ที่ให้บริการเกมมากกว่า 100 เกม รองรับ Controller พร้อมทั้งรองรับการเล่นเกมร่วมกับ Xbox และ Play Station ได้ด้วย

iOS 13 ทางด้าน iOS ปลดล็อกด้วย Face ID ได้เร็วขึ้น 30% เปิดแอปเร็วขึ้นเท่าตัว ในขณะที่ขนาดของแอปจะเล็กลงกว่าเดิมถึง 50% ทำให้การดาวน์โหลดทำได้เร็วขึ้น มี Dark Mode หรือหน้าจอถนอมสายตาให้เลือกเพิ่มเติม ปรับปรุงแอป Photo ให้ฉลาดมากขึ้น เช่น การแสดงภาพที่สอดคล้องหรือมีความเกี่ยวกับกับภาพที่เปิดดู ในส่วนของวิดีโอสามารถพลิก (Rotate) วิดีโอให้อยู่ในแนวตั้งหรือแนวนอนได้ง่ายๆ คนที่ชอบเล่น Memoji Sticker ก็จะมีรูปแบบใหม่ๆ ให้ปรับแต่งเพิ่มเติม รวมถึงมีการฝัง Memoji ลงในคีย์บอร์ดด้วย แอป Map สามารถมองในมุมสถานที่จริงได้เหมือนกับ Google Street View อีกสิ่งหนึ่งที่สนใจคือสามารถแชร์คอนเทนต์ระหว่างไอโฟนสองเครื่องเพื่อรับชมรับฟังคอนเทนต์ร่วมกันได้

iPadOS ใครใช้ iPad จากนี้ไปจะได้รับประสบการณ์ใหม่เนื่องจากจะมีการแยก OS ออกมาต่างหากจาก iPhone เพื่อให้สามารถทำงานได้สะดวกขึ้น เช่น ทำงานหลายแอปพร้อมกันได้สะดวกกว่า สามารถ Drag Cut หรือ Paste ระหว่างหน้าต่างได้จากการควบคุมด้วยท่าทาง ที่น่าสนใจคือรองรับการเปิดไฟล์จาก External HDD, Thump Drive และ SDcard สำหรับการใช้งาน Pencil  หลังจากอัปเดตเป็น iPadOS แล้ว จะช่วยลดการหน่วงของปากลงได้อีก (จากเดิมที่ทำได้ดีอยู่แล้ว) เหลือเพียง 9ms เท่านั้น

watchOS 6 มีหน้าปัดแบบใหม่ให้เลือกเพิ่ม ตั้งการตั้งเตือนทุกชั่วโมงได้ มีแอปใหม่อย่าง Audiobooks, Voice Memos และเครื่องคิดเลขให้ใช้ โดยมีแอปสโตร์ของตัวเองแล้ว สามารถลงแอปที่แตกต่างจากไอโฟนได้ และที่ผู้หญิงต้องชอบคือมีแอปที่ช่วยบันทึกและนับเวลาการมีประจำเดือน

Mac Pro หลังจากที่อัปเดตไปตั้งแต่ปี 2013 ตอนนี้ก็มีรุ่นใหม่ออกมาแล้ว ความแรงของ Mac Pro รุ่นใหม่ คอนเทนต์ที่มีความละเอียดระดับ 6K สามารถที่จะสตรีมพร้อมกันได้ถึง 8 Streams หรือถ้ามีความละเอียดระดับ 4K จะสามารถที่จะสตรีมพร้อมกันได้ถึง 12 Streams และมาพร้อมหน้าจอ Super HDR ขนาด 32 นิ้ว Retina 6K 20 ล้านพิกเซลด้วย

macOS Catalina ต่อไปนี้ใครมี iPad สามารถนำมาใช้ไปหน้าจอที่สองเพื่อใช้งานร่วมกับ Macbook ได้โดยไม่ต้องเสียบสายใดๆ ที่น่าสนใจสำหรับการอัปเดตในส่วนนี้คือต่อไปการค้นหาเครื่อง mac ที่หายหรือหลงลืมไว้ที่ไหนมีโอกาสที่จะเจอได้มากขึ้นแม้ว่าเครื่องจะปิดอยู่หรือไม่ได้เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตก็ตาม โดยเครื่องจะอาศัยสัญญาณบลูทูธความที่ต่ำที่ไม่ระบุตัวตนในการค้นหาและแสดงตำแหน่ง