ตอนที่ GoPro ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นผู้นำแห่งกล้อง Action Camera เปิดตัว GoPro Hero7 Black ออกมาก็สร้างความฮือฮาได้ไม่น้อย หลายคนจากที่จดๆ จ้องๆ กับ GoPro มานานก็ตัดสินใจซื้อกับรุ่นนี้ ใครที่ใช้ GoPro อยู่แล้วก็ยังยอมรับว่าฟีเจอร์ของรุ่นนี้ดีจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นกันสั่นเทพๆ อย่าง HyperSmooth หรือการที่สามารถ Live Stream ได้ เป็นต้น
ผ่านไปไม่นาน GoPro 7 ก็ต้องมาเจอคู่แข่งที่ทำเอาคนซื้อต้องชะงักเสียแล้วว่าจะยังเลือก GoPro อย่างที่ตั้งใจหรือว่าจะไปหาคู่แข่งหน้าใหม่ในกลุ่มกล้องเล็กแต่เป็นแบรนด์ที่มี Gadget เจ๋งๆ ออกมาหลายรุ่นแล้วอย่าง DJI ที่ล่าสุดเปิดตัว DJI Osmo Pocket ออกมา ทั้งคุณสมบัติและราคานั้นเทียบเท่ากับ GoPro เลยทีเดียว
เริ่มกันที่ราคา
- ฝากฝั่ง GoPro Hero7 Black ราคา 14,500 บาท
- ส่วน DJI Osmo Pocket เปิดตัวมาในราคา 13,500 บาท
ถือว่า DJI มาพร้อมคุณสมบัติและลูกเล่นที่น่าสนใจมากในราคาที่ถูกกว่า 1,000 บาท ยิ่งทำให้ลังเล แล้วอย่างอื่นล่ะ ฟีเจอร์หลักๆ ที่จะเปรียบเทียบในเชิงการใช้งานมีอะไรบ้าง
รูปทรงลักษณะการใช้งาน
- Gopro7 Blck ดีไซน์ทรงเหลี่ยมดูกระทัดรัด ไม่มีก้านหรือแกนต่อ ทำให้มันดูจะเหมาะกับการใช้งานที่ลุยๆ สมบุกสมบันได้มากกว่า
- DJI Pocket มาพร้อมด้ามจับที่เป็นกันสั่นในตัว ถ้าเป็นการใช้งานเบาๆ ขิวๆ ถ่ายแนวไลฟ์สไตล์ก็คงดีเพราะมีขนาดเล็กกระทัดรัดเช่นกัน ใส่กระเป๋าเสื้อได้สบายๆ แต่การที่มาพร้อมด้ามจับจึงอาจจะลุยสู้ GoPro ไม่ได้
กันสั่นเป็นไง
- GoPro7 Black มาพร้อม Hypersmooth ที่เป็นกันสั่นแบบซอฟต์แวร์ ซึ่งก็ทำงานได้ดีทีเดียวจากที่มีการรีวิวกันเยอะแยะต่างก็บอกว่าน่าประทับใจนะ
- DJI Pocket มาพร้อมด้ามจับที่เป็น Gimbal หรือกันสั่นแบบ 3 แกนในตัว อีกทั้ง DJI แม้จะเป็นน้องใหม่ในกลุ่มกล้องเล็กแบบนี้ แต่ก็เป็นผู้นำเรื่อง Gimbal เหมือนกันดังนั้นเรื่องความนิ่งของภาพคงมั่นใจได้แน่นอน
คงต้องพิจารณาย้อนไปถึงหัวข้อข้างบนว่าลักษณะการใช้งานเป็นแบบไหน ถ่ายแนวไลฟ์สไตล์หรือถ่ายแนวลุยๆ
ความสามารถในการกันน้ำ
- GoPro7 Black กันน้ำลึกได้โดยไม่ต้องใส่อุปกรณ์เสริมในระดับ 10 เมตร
- DJI Pocket กันน้ำไม่ได้ แต่ถ้าจะใช้ถ่ายใต้น้ำก็ได้อยู่นะ แต่ต้องใช้อุปกรณ์เสริมซึ่งมีขายแยก
เรื่องของการกันน้ำ บางทีอาจจะไม่ได้หมายถึงต้องดำน้ำเสมอไป กันฝนกันละอองน้ำได้ก็ช่วยให้ไม่ต้องกังวล ถ้าพูดถึงการใช้งานแนวสมบุกสมบัน GoPro คงได้เปรียบมากกว่า
ความละเอียดของวิดีโอ
- GoPro7 Black ความละเอียดระดับ 4K ที่ 60p และ Full HD ที่ 240p
- DJI Pocket ความละเอียดระดับ 4K ที่ 60p และ Full HD ที่ 120p
เรื่องความละเอียดของภาพไม่หนีกันนะ แต่ฟังก์ชั่นการถ่ายมีสิ่งที่ต้องเลือก ถ้านเน้นถ่ายเป็นเรื่องเป็นราว DJI น่าจะดีกว่ากับการที่สามารถแพนกล้องได้อย่างราบลื่นด้วยด้ามจับที่เป็น Gimbal ในตัว แม้ว่า GoPro จะมีระบบกันสั่นที่ดี แต่การ Tilt การ Pan ด้วยมือคงสู้ Gimbal ไม่ได้
มุมมองภาพนิ่ง
- GoPro7 Black 180 องศา f2.8 ใครชอบภาพมุมกว้างก็ต้อง GoPro แต่ก็สามารถตั้งค่าให้เป็นมุมมองปกติได้นะ มาพร้อมฟีเจอร์ SuperPhoto ที่ให้สีภาพที่สดใส ถ่ายง่ายไม่ต้องโฟกัสเพราะชัดทั้งภาพ
- DJI Pocket 80 องศา f2.0 ได้ภาพมุมมองที่ไม่กว้าง แต่ก็ได้ในเรื่องของการถ่ายที่ดูจะมีลูกเล่นในเรื่องของหน้าชัดหลังเบลอ
ความจุแบตเตอรี่
- GoPro7 Black แบตเตอรี่ใช้งานได้ประมาณ 105 นาที
- DJI Pocket แบตเตอรี่ใช้งานได้ประมาณ 140 นาที
อุปกรณ์เสริม ความหลากหลายในการใช้งาน
- GoPro7 Black ขายมานานอุปกรณ์เสริมเพียบ มีทั้งของแท้ของเทียม มีอุปกรณ์จำพวกตัวยึดจับต่างๆ มากมายทั้งติดหมวกกันน็อก จักรยาน ติดแขน ติดกระจะรถยนต์ ฯลฯ
- DJI Pocket ของทั่วไปอาจยังไม่มีให้เลือก ถ้าจะใช้คงต้องดูของ DJI เท่านั้น ซึ่งมีให้เลือกใช้งานได้หลายลักษณะเหมือนกันนะมี Quick Release Base สำหรับยึดติดเพื่อถ่ายในพื้นที่หรือกิจกรรมใดๆ ที่ต้องการ มี Extentension Rod มีWaterproof Case สำหรับดำน้ำ ฯลฯ
การต่อไมค์นอก
- GoPro7 Black มีไมค์ในตัว แต่ถ้าจะต่อไมค์นอกมีอะแดปเตอร์ขายแยก 2,000 บาท
- DJI Pocket แบตเตอรี่ใช้งานได้ประมาณ 140 นาที ไม่แน่ใจว่ามีไมค์ในตัวไหม แต่เห็นว่ามีอะแดปเตอร์ 3.5 มม. ที่ใช้เชื่อมต่อกับ Universal Port น่าจะต่อไมค์นอกได้