ทดสอบการใช้งาน Apple Wireless Keyboard กับ iPhone

เหตุเกิดจากความต้องการอุปกรณ์การทำงานเพิ่มอีกหนึ่งเครื่องจากที่มีใช้งานอยู่แล้ว ทำให้เสาะหาอุปกรณ์ต่างๆ ที่คิดว่าน่าจะลงตัวที่สุด และเมื่อได้มาแล้วไม่รู้สึกว่าเป็นการสิ้นเปลืองเกินไป และไม่รู้สึกว่าได้มาแล้วใช้งานไม่คุ้มค่า คอมพิวเตอร์ที่มีใช้งานอยู่เดิมนั้นเป็น iMac ซึ่งเป็นคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะนั่นเอง เพื่อความคล่องตัวในการทำงานนอกบ้านบ้าง หรืออยากจะเปลี่ยนมุมการทำงานในบ้านบ้าง จึงอยากได้อุปกรณ์ที่พกพาหรือหยิบยกไปใช้งานที่ต่างๆ ได้อย่างสะดวก แรกทีเดียวก็พิจารณาโน้ตบุ้กและเคยได้ทดลองซื้อมาใช้งานแล้วเครื่องหนึ่ง แต่พบว่ามีสิ่งที่ไม่ถูกใจหลายอย่าง จึงได้ขายไปในที่สุด

โน้ตบุ้กที่ซื้อมาเป็นยี่ห้อ Dell รุ่นหนึ่ง ซึ่งระดับราคาและสเป็คกลางๆ ทดลองใช้งานอยู่สักเดือนรู้สึกว่าไม่ตอบโจทย์ทั้งแง่ของการใช้งานและความพอใจจึงคิดว่าขายดีกว่า สิ่งที่ไม่พอใจในโน้ตบุ้ก Dell คือ เรื่องของระบบปฏิบัติการ หลังจากที่เปลี่ยนมาใช้ Mac ได้ 2 ปี ก็พึงพอใจและชอพอระบบปฏิบัติการของ Mac เสียแล้ว ทีแรกก็คิดว่าเอา Windows มาใช้งานบ้างก็ดี จะได้หลากหลาย แต่พอได้ลองใช้แล้ว (Windows 8) ไม่ชอบสักเท่าไร และที่สำคัญคือเรื่องของแบตเตอรี่ คนขายบอกว่ารุ่นที่ซื้อมา แบตรองรับการใช้งานได้นาน 4-5 ชั่วโมง แต่พอมาใช้งานจริงๆ 30-40 นาทีก็หมดเสียแล้ว ต้องหาที่เสียบอะแดปเตอร์ให้วุ่นวาย

หลังจากขาย Dell ไปแล้ว คิดว่า ไปซื้อ Macbook Pro ดีกว่า ช่วงที่กำลังตัดสินใจเป็นช่วงที่ Macbook Pro กำลังจะออกตัวใหม่พอดี ก็เลยรอๆ เพื่อพิจารณาระหว่างรุ่นเก่ากับรุ่นใหม่ล่าสุด รออยู่เป็นเดือน จากที่คิดว่าจะเอาด้วยอารมณ์ชั่ววูบ ยอมจ่ายแพงหน่อยแล้วจบเลย ทำให้มีเวลาได้คิดไตร่ตรองถึงความคุ้มค่า แต่ในใจก็ไม่วายลังเล เอาดี ไม่เอาดี กับ Macbook Pro อยู่นั่นแหละ ลังเลอยู่พักใหญ่ ทีแรกลังเลว่าจะเอารุ่นเก่าหรือรุ่นใหม่ดี เพราะรุ่นเก่าลดราคาลงมาเหลือ 37,000 บาท เท่านั้น ลังเลอยู่สักพัก ตัดสินใจว่าเอารุ่นใหม่ไปเลยดีกว่า พอไปดูที่ร้าน คนขายบอก Macbook Pro รุ่นใหม่ เพิ่มแรมไม่ได้ จากที่คิดว่าจะเอารุ่น 43,700 บาท แล้วค่อยเพิ่มแรมทีหลัง กลายเป็นว่าถ้าอยากได้แรม 8 กิกะไบต์ ต้องขยับไปซื้อรุ่น 49,000 โน่น โอย แพงไปแล้ว

กลับมาตั้งหลัก มาพิจารณาถึงการใช้งานที่ต้องการซื้ออุปกรณ์เพิ่ม จริงๆ ไม่ได้ต้องการใช้งานอะไรมากเลย ถ้าทำงานกราฟิกก็ใช้ iMac เป็นหลักอยู่แล้ว ความต้องการที่อยากจะได้เครื่องใหม่จริงๆ แค่อยากเอาไว้เปลี่ยนบรรยากาศหรือสถานที่ในการนั่งพิมพ์งานและเล่นอินเทอร์เน็ตแค่นั้น จากโน้ตบุ้กคราวนี้เลยนึกถึงแท็บเล็ตขึ้นมา

เมื่อนึกถึงแท็บเล็ต หากจะนำแท็บเล็ตมาใช้พิมพ์งาน ถ้าจะให้สะดวกก็ต้องมีอุปกรณ์เสริมชิ้นสำคัญนั่นคือ คีย์บอร์ด คราวนี้จากที่หมกหมุ่นกับการพิจารณาโน้ตบุ้กก็มาหมกหมุ่นกับแท็บเล็ตบ้าง หลักๆ ก็เล็งไว้แค่ Samsung กับ Apple (iPad/iPad mini) แค่นั้นแหละ จังหวะนั้นมีโฆษณาของ Samsung ออกมาพอดีว่า Note 10.1 สามารถใช้งานได้เหมือนโน้ตบุ้กเลย ใช้เมาส์ได้ด้วย ตอนนั้นผมเองได้ซื้อเครื่อง Note 10.1 มาทดลองใช้อยู่เหมือนกัน แต่ไม่ได้ลองต่อคีย์บอร์ดและเมาส์ จะว่าไปแล้วในใจก็ค่อนข้างจะเอนเอียงไปทาง iPad มากกว่าด้วย

แต่ติดที่ว่ายังไม่มีโอกาสได้ทอลองใช้งานคีย์บอร์ดเลย ลองถามเพื่อนที่เคยใช้คีย์บอร์ดกับ iPad mini เพื่อนบอกว่าพิมพ์ยาก ก็เลยไม่แน่ใจว่าจะอายังไงดี นึกขึ้นมาได้ เราใช้ iMac นี่น่า มี Apple Wireless Keyboard อยู่แล้ว และก็ใช้ iPhone 5 อยู่ด้วย ก็ทดลองใช้งานได้นี่น่า iPhone กับ iPad ก็เหมือนกัน ต่างกันแค่ขนาดของหน้าจอ ลืมไปเสียสนิทเลย

ตอนนี้ผมได้ทดลองใช้งาน Apple Wireless Keyboard กับ iPhone แล้ว ใช้งานได้ดีและตอบโจทย์เลย ใครที่มีความต้องการใช้งานในลักษณะเดียวกับผม ลองดูเป็นแนวทางก็ได้นะครับ

ถ้าคุณซื้อ Apple Wireless Keyboard มาใหม่ๆ เพื่อใช้งานกับ iPhone หรือ iPad สามารถเชื่อมต่อกันได้ทันที แต่ถ้าใช้งานร่วมกับอุปกรณ์หลายตัวแบบผม ต้อง Unpair Apple Wireless Keyboard จากอุปกรณ์อื่นก่อน เพราะไม่สามารถเชื่อมต่อบลูทูธพร้อมกันหลายๆ อุปกรณ์ได้ ของผมใช้งานร่วมกับ iMac อยู่ เลยต้องไป Unpair ก่อนโดย…

1. เปิด System Preferences ขึ้นมา > คลิกที่ Bluetooth

2. คลิกที่ admin’s Keyboard > คลิกที่รูปเฟืองด้านล่าง > เลือก Disconnect

3. คลิกที่ ” – ” ด้านล่างของหน้าต่าง > คลิกปุ่ม Remove

การเชื่อมต่อ Apple Wireless Keyboard กับ iPhone หรือ iPad

1. เข้าไปที่ Settings > Bluetooth > เปิดการทำงานของบลูทูธ (และเปิดการทำงานของ Apple Wireless Keyboard ด้วย) > แตะที่ admin’s Keyboard

2. พิมพ์ Code ซึ่งเป็นตัวเลข 4 หลักบนคีย์บอร์ด แล้วแตะปุ่ม return (enter) เพียงเท่านี้ก็สามารถพิมพ์ข้อความต่างๆ บนหน้าจอ iPhone ผ่าน Apple Wireless Keyboard ได้แล้ว

มาดูกันว่าหลังจากที่ผมทดลองใช้งานแล้ว ผลเป็นอย่างไรบ้าง

หลังจากที่เราเชื่อมต่อ Apple Wireless Keyboard แล้วจะไม่มีคีย์บอร์ดบนหน้าจอขึ้นมาให้ใช้งานอีก จะพิมพ์อะไรต้องพิมพ์ผ่าน Apple Wireless Keyboard เท่านั้น กรพิมพ์สามารถพิมพ์ได้สะดวกเลย การตอบสนองของการพิมพ์และการแสดงผลรวดเร็ว ไม่มีการหน่วงหรือแสดงผลช้า ใช้งานได้เหมือนกับเวลาที่พิมพ์บน iMac ผมทดลองพิมพ์ในหลายๆ แอป ทั้ง Note แอปเอกสาร เช่น Word หรือ Excel หรือหน้าจอ Safari ก็พิมพ์ได้อย่างสะดวก

พิมพ์ได้คล่องตัวทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ส่วนหนึ่งผมเอง Apple Wireless Keyboard ด้วย ทำให้การพิมพ์ เช่น การเปลี่ยนภาษา ทำได้ค่อนข้างถนัดมือ สามารถเลือก คัดลอก และลบข้อความด้วยคีย์ลัดได้ สามารถใช้ปุ่มคำสั่งปรับแสงหน้าจอได้ ใช้ปุ่มคำสั่ง Play Puase หรือ Forword ในการควบคุมการเล่นหนังหรือเพลงได้ โดยรวมแล้วตอบโจทย์สำหรับผมเลยทีเดียว

การยกเลิกการเชื่อมต่อ Apple Wireless Keyboard กับ iPhone

1. เข้าไปที่ Settings > Bluetooth > แตะที่เครื่องหมาย i หลังชื่ออุปกรณ์ (admin’s Keyboard)

2. แตะที่ Forget this Device

3. แตะที่ Forget Device

IMG_2138 IMG_2147 IMG_2148

หลังจากที่ทดลองแล้ว ผมค่อนข้างพอใจและโอเคกับแนวทางนี้เลย ผมแค่ต้องการพิมพ์ข้อความได้สะดวกๆ แค่นั้น เพราะต้องพิมพ์งานแต่ละครั้งยาวเป็นหน้ากระดาษ คิดว่าใช้ iPad ก็สะดวกดีเสียด้วย เพราะจะถือจะพกพาไปไหนก็สะดวก หยิบใช้งานก็ง่าย แบตก็อยู่ได้นานเป็นวัน ราคาก็ประหยัดจาก Macbook Pro ตั้งครึ่งหนึ่ง ไม่ต้องกลัวว่าจะมารู้สึกทีหลังว่าซื้อมาแล้วใช้ไม่คุ้ม ซื้อมาเพราะอารมณ์ ลองถ้าตอบโจทย์ได้แบบนี้ได้ใช้งานกันจริงจังแน่นอน แต่ตอนนี้มีปัญหาอีกอย่างที่ยังลังเลอยู่คือ จะเอา iPad หรือ iPad mini ดีนะ