เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว
Your privacy is important to us. We need your data just for the important process of services. Please allow if you accept the term of privacy comply with PDPA. Read term and privacy policy
การประชุม Global Mobile Broadband Forum 2021 นั้นจัดขึ้นโดยหัวเว่ยและพาร์ทเนอร์ในอุตสาหกรรม ซึ่งรวมถึงองค์กรกำกับดูแลมาตรฐานการสื่อสาร (Global System for Mobile Associations – GSMA) และคณะกรรมการโทรคมนาคมแห่งเอเชียใต้ ตะวันออกกลาง และแอฟริกาเหนือ (SAMENA – South Asia, Middle East, North Africa) โดยงานประชุมครั้งนี้นับเป็นการรวมตัวของกลุ่มผู้ให้บริการโครงข่าย ผู้นำภายในอุตสาหกรรมแนวดิ่ง และพาร์ทเนอร์ด้านอีโคซิสเต็มจากทั่วโลกเพื่อร่วมแลกเปลี่ยนความเห็นเรื่องแนวทางการนำศักยภาพเทคโนโลยี 5G มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด พร้อมผลักดันอุตสาหกรรมโครงข่ายไร้สายให้ก้าวไปข้างหน้า
เพื่อเติมเต็มประสบการณ์การใช้งาน ทีวี LG QNED Mini LED ใหม่ล่าสุด ยังมอบเทคโนโลยี LG ThinQ AI ที่รองรับการสั่งงานด้วยเสียง พร้อมอัพเกรดระบบปฏิบัติการ webOS 6.0 ช่วยประมวลผลให้ค้นหาคอนเทนต์ต่าง ๆ ได้รวดเร็วและง่ายดายยิ่งขึ้น พร้อมฟีเจอร์ Apple Airplay2 ที่อำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้งานแชร์คอนเทนต์จาก iOS สู่หน้าจอทีวีได้อย่างง่ายดาย โดยทีวีรุ่นใหม่ทั้ง 2 ซีรีส์ ยังมาพร้อมเมจิกรีโมทซึ่งเป็นไฮไลท์ของทีวี LG ในด้านการควบคุมที่ง่ายเสมือนเม้าส์ไร้สาย พร้อมการสั่งการแบบ Hands-free Voice Control พิเศษเฉพาะในทีวี LG ซีรีส์QNED99 8K ในขณะที่หน้าจอ Home Dashboard โฉมใหม่ ยังแสดงผลการเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่าง ๆ ทั้งโทรศัพท์มือถือ บลูทูธ AirPlay ซาวด์บาร์หรือเกมต่าง ๆ รวมถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าของแอลจี โดยสามารถควบคุมการสั่งงานเปิด-ปิด อุปกรณ์ต่าง ๆ ผ่านการใช้เมจิกรีโมทคลิกบนหน้าจอพร้อมจัดเต็มฟีเจอร์เอาใจคอกีฬาอย่าง Sports Alert ให้ผู้ใช้งานตั้งค่าทีมกีฬาทีมโปรดไว้บนทีวีเพื่อรับการแจ้งเตือนก่อนเริ่มเกมการแข่งขัน พร้อมอัปเดตคะแนนแบบเรียลไทม์ในระหว่างการแข่งขัน และแจ้งกำหนดการแข่งขันในรอบถัดไป นอกจากนี้ ทีวี LG QNED Mini LED ใหม่ล่าสุด ยังถูกพัฒนาขึ้นโดยคำนึงถึงสุนทรียภาพด้านการตกแต่ง ด้วยฟีเจอร์ Gallery App ที่บรรจุภาพวาดของเหล่าศิลปินชื่อดังเอาไว้ให้ผู้ใช้สามารถเปลี่ยนการตั้งค่าหน้าจอทีวี ให้เป็นกรอบรูปศิลปะชั้นเลิศการเชื่อมต่อที่ราบรื่น
LG QNED Mini LED ใหม่ล่าสุด ยังมาพร้อมตัวเลือกการเชื่อมต่อที่หลากหลายเพื่ออำนวยความสะดวกผู้ใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi, Bluetooth 5.0 ช่องต่อ USB จำนวน 3 ช่อง รวมทั้งช่องต่อ HDMI โดยในทีวี LG ซีรีส์QNED99 8K ขนาด 75 นิ้ว มาพร้อมช่องต่อ HDMI 2.1 จำนวน 4 ช่อง ในขณะที่ทีวี LG ซีรีส์ QNED91 4K ขนาด 75 และ65 นิ้ว มาพร้อมช่องต่อ HDMI 4 ช่อง แบ่งเป็น HDMI 2.1 จำนวน 2 ช่อง และ HDMI 2.0 อีก 2 ช่อง
สำหรับ LG QNED Mini LED TV ซีรีส์ QNED99 และ QNED91 ราคาเริ่มต้นที่ 104,990 – 229,990 บาท พร้อมให้ลูกค้าชาวไทยเป็นเจ้าของตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ข้อมูลแอลจี 0-2878-5757 หรือhttps://www.lg.com/th/qned-tvs และสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
vivo แบรนด์สมาร์ตโฟนชั้นนำระดับโลก เปิดตัวไลน์อัปสมาร์ตโฟนเรือธงรุ่นท็อปสุดสำหรับการถ่ายภาพระดับมืออาชีพ vivoX70 Series 5G จากตระกูล X Series ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ โดยประกอบด้วยมือถือสองรุ่นทั้ง X70 5G และ X70 Pro 5G นับเป็นก้าวสำคัญของการเป็นพันธมิตรด้านการถ่ายภาพในระดับโลกกับ ZEISS เพื่อสร้างที่สุดแห่งประสบการณ์การถ่ายภาพบนมือถือแก่ผู้ใช้งาน ซึ่ง vivo X70 Series 5G มาพร้อมโหมดการถ่ายภาพพอร์ตเทรตหรือภาพบุคคลแบบใหม่จากZEISS รวมถึงเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดเพื่อการถ่ายภาพบนมือถือ พร้อมกับสเปกแรงแบบจัดเต็มเพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดแก่ผู้ใช้งาน
vivo X70 Series 5G จะวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการพร้อมกันในทุกช่องทางทั้ง vivo Brand Shop และตัวแทนจำหน่ายชั้นนำทั่วประเทศ ในวันเสาร์ ที่ 16 ตุลาคม 2564 โดย X70 5G จำหน่ายในราคา 21,999 บาท และ X70 Pro 5G จำหน่ายในราคา 27,999 บาท
vivo X70 Series 5G คือเครื่องพิสูจน์ความมุ่งมั่นของ vivo ในการเป็นผู้บุกเบิกเทคโนโลยีด้านการถ่ายภาพบนสมาร์ตโฟนที่ผ่านการพัฒนาทางวิศวกรรม (Co-Engineer) ร่วมกับ ZEISS ตำนานแบรนด์ผู้ผลิตเลนส์กล้องชั้นนำระดับโลกมากว่า 175 ปีเพื่อผสานการทำงานระหว่างซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์สำหรับการถ่ายภาพบนมือถือระดับพรีเมียม
Spark Ni รองประธานอาวุโสและผู้บริหารฝ่ายการตลาดของ vivo กล่าวว่า “นับเป็นอีกครั้งที่ vivo ได้ก้าวข้ามขีดจำกัดใหม่ๆ ด้วยการนำเสนอสุดยอดความล้ำหน้าด้านการถ่ายภาพบนมือถือที่พัฒนาร่วมกับ ZEISS ผู้นำระดับโลกด้านเลนส์และการถ่ายภาพ ปัจจุบันนี้ สมาร์ตโฟนกลายเป็นเครื่องมือที่ผู้ใช้งานเลือกใช้ในการเก็บภาพความทรงจำต่างๆ และนับเป็นประตูสู่โลกดิจิทัล เพื่อใช้บอกเล่าเรื่องราวและแบ่งปันความสร้างสรรค์ของตนสู่โลกกว้าง โดย vivo X70 Series 5G จะเข้ามาช่วยเติมเต็มช่องว่างของการถ่ายภาพบนมือถือและการถ่ายภาพระดับมืออาชีพผ่านการผสมผสานนวัตกรรมที่เน้นผู้ใช้งานเป็นศูนย์กลางเข้ากับเทคโนโลยีล้ำสมัยใหม่ๆ”
โดย vivo X70 Series 5G ทั้งสองรุ่นได้ผ่านการรับรองตามมาตรฐานการเคลือบเลนส์ของ ZEISS T* (T Star) ที่ช่วยลดการสะท้อนและเพิ่มการส่งผ่านแสง ลดการเกิดแสงหลอก แสงฟุ้ง และปัจจัยอื่นๆ ที่ส่งผลต่อคุณภาพและความสดใสของภาพที่ได้ โดยสัญลักษณ์แห่งคุณภาพอย่างโลโก้ของ ZEISS และโลโก้ ZEISS T* ถูกประทับอยู่บริเวณกล้องหลังของ vivo X70 Series 5G พร้อมเครื่องหมายการค้า ZEISS VARIO-TESSAR ที่บ่งบอกเทคโนโลยีเลนส์เฉพาะของ ZEISS ถูกสลักอยู่บริเวณแผงไฟแฟลชด้านหลังของตัวมือถือ
สมาร์ตโฟนเรือธงด้านการถ่ายภาพมืออาชีพระดับไฮเอนด์
vivo X70 Series 5G ประกอบด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ รวมถึงฟีเจอร์ด้านการถ่ายภาพและการถ่ายวิดีโอหลากหลายรูปแบบอันเป็นเอกลักษณ์ของ vivo ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถแสดงความคิดสร้างสรรค์ของตนได้อย่างเต็มที่ภายใต้คุณภาพความละเอียดสูง รวมถึงสร้างคอนเทนต์วิดีโอหรือภาพถ่ายโดยไม่ถูกลดทอนคุณภาพลงไป
โดย vivo X70 Pro 5G และ X70 5G ติดตั้งกล้องหลักที่มีระบบกันสั่นแบบ Ultra-Sensing Gimbalทำงานร่วมกับ Gimbal Stabilization 3.0 ระบบกันภาพสั่นไหวแบบ 5 แกน ให้ผู้ใช้งานสามารถถ่ายภาพหรือวิดีโอได้อย่างเสถียรและนิ่งกว่าที่เคยแม้อยู่ระหว่างการเคลื่อนไหว โดยระบบจะช่วยเสริมการทำงานฮาร์ดแวร์กันสั่นด้วยซอฟต์แวร์ (OIS และ EIS) เพื่อช่วยการลดการสั่นของเลนส์ระหว่างแกน X และ Y ด้วยการหมุนแกน Z เพื่อรักษาความเสถียรในองค์รวม
เพื่อสอดรับกับความสามารถด้านการถ่ายภาพระดับสูงของ X70 Series 5G ทาง vivo จึงให้ฟีเจอร์ด้านการถ่ายภาพและวิดีโอมาในเครื่องอย่างจัดเต็ม ไม่ว่าจะเป็นฟีเจอร์สำหรับตอนกลางคืนอย่าง Real-Time Extreme Night Vision,Super Night Video และ Pure Night View ฟีเจอร์การถ่ายวิดีโอระดับโปรอย่าง Pro Cinematic Mode รวมถึงฟีเจอร์สุดล้ำอื่นๆ เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถปลดปล่อยศักยภาพและค้นพบสุนทรียภาพใหม่ๆ ด้านการถ่ายภาพและวิดีโอ
เพิ่มประสิทธิภาพให้ไม่เป็นรองใคร
เนื่องจากเป็นมือถือระดับเรือธงตัวท็อปที่จะปฏิวัติการถ่ายภาพบนมือถือ vivo X70 Series 5G ทั้งสองรุ่น จึงให้สเปกภายในเครื่องมาแบบจัดเต็ม พร้อมมอบประสิทธิภาพการทำงานขั้นสูงสุด ตอบโจทย์ความพึงพอใจของผู้ใช้งาน
vivo X70 Pro 5G และ X70 5G ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังชิปเซต MediaTek Dimensity 1200 มอบประสิทธิภาพในการประมวลผลของ CPU และ GPU ขั้นสูงสุด โดยโปรเซสเซอร์ชุดนี้จะทำให้ผู้ใช้งานสามารถเชื่อมต่อ 5G ในชีวิตประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดและยังช่วยประหยัดพลังงาน
vivo ได้ทุ่มเทอย่างเต็มที่ในการพัฒนา vivo X70 Series 5G ให้สมกับเป็นสมาร์ตโฟนระดับเรือธงที่จะสร้างสุดยอดประสบการณ์ด้านการถ่ายภาพบนมือถือ โดยออกแบบตัวมือถือให้มีสไตล์ร่วมสมัยเหนือกาลเวลา พร้อมรูปลักษณ์สวยสะดุดตาไม่เหมือนใคร ซึ่ง vivo ได้เลือกใช้เทคโนโลยีการเคลือบผิวโทรศัพท์มือถือด้วยFluorite AG ซึ่งนับเป็นการปฏิวัติอุตสาหกรรมการออกแบบผลิตภัณฑ์จาก vivo โดย X70 Pro 5G และ X70 5G จะถูกเคลือบด้วยกระจกคริสตัลที่มีผิวเคลือบแบบปริซึม ช่วยกระจายแสงเมื่อตัวสมาร์ตโฟนกระทบแสงไฟ โดยกล้องด้านหลังของทั้งรุ่น X70 Pro 5G และ X70 5G ถูกออกแบบมาในดีไซน์คอนเซปต์ใหม่ของ vivo ที่เรียกว่า Cloud Valley โดยแยกกล้องและไฟแฟลชออกเป็นสองแถวอย่างชัดเจน
vivo X70 Pro 5G และ X70 5G วางจำหน่ายในสี Cosmic Black และ Aurora Dawn ซึ่งสี Cosmic Black ได้รับแรงบันดาลใจจากอำนาจและพลังของจักวาล โดยใช้สีดำที่เป็นสัญลักษณ์สื่อถึงความยิ่งใหญ่ของจักรวาล เสริมด้วยกลิตเตอร์สีเงินที่เปรียบเหมือนดวงดาวท่ามกลางท้องฟ้าในคืนอันมืดมิด ในขณะที่สีAurora Dawn สื่อถึงแสงเหนือหรือแสงสีรุ้งออโรราที่ขั้วโลกเหนือ รวมเป็นสีที่สะดุดตาและให้ความหรูหราอย่างไร้ที่ติ
vivo X70 Series 5G จะเป็นไลน์อัปผลิตภัณฑ์แรกจาก vivo ที่มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Funtouch OS 12มอบประสบการณ์การใช้งานที่มีประสิทธิภาพ เหมาะกับผู้ใช้งานแต่ละคนมากกว่าที่เคย โดย Funtouch OS 12 มาพร้อมกับวิดเจ็ตชุดใหม่ให้ผู้ใช้งานสามารถปรับแต่งหน้า Home Screen ตามต้องการ กำหนดวิธีแสดงผลข้อมูลสำคัญของแอปพลิเคชันโดยไม่ต้องเปิดแอปฯ ปรับแต่งประสบการณ์การใช้สมาร์ตโฟนได้ดั่งใจ และเข้าถึงสิ่งที่ต้องการได้เร็วกว่าที่เคย รวมถึงโปรแกรมเล่นเพลงใหม่ล่าสุด Nano Music Player ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงเพลงโปรดจากแอปฯ ต่างๆ เช่น Spotify และ JOOX ได้เพียงคลิกเดียว ผ่านวิดเจ็ตบนหน้า Home Screen ได้อย่างง่ายดาย
นอกจากนี้ภายในงานเปิดตัว vivo X70 Series 5G ในประเทศไทย ยังได้รับเกียรติจาก คุณวฤธ หงสนันทน์เซเลบริตี้ชื่อดังผู้หลงใหลในนวัตกรรมและความสมบูรณ์แบบ และคุณอิชย์ญาดา คลอวุฒิเสถียร บล็อกเกอร์ไอทีจากIAUMReview มาร่วมแชร์ประสบการณ์การใช้งานพร้อมแง่มุมสุดเอ็กซ์คลูซีฟ และถ่ายทอดนิยามใหม่ของการถ่ายภาพบนสมาร์ตโฟนที่เหนือชั้นกว่าที่เคย
vivo X70 Series 5G ทั้งสองรุ่นจะวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการพร้อมกัน ในวันพฤหัสบดีที่ 16 ตุลาคม 2564 โดย vivo X70 Pro 5G จำหน่ายในราคา 27,999 บาท และ vivo X70 5G จำหน่ายในราคา 21,999 บาท ณ vivo Brand Shop ทุกสาขา ตัวแทนจำหน่ายชั้นนำ BaNANA, IT City, CSC, Jaymart, TG FONE, KINGKONG, BKK, แม่วังสื่อสาร, Power Mall, Stamp และ PTE, Advice, Boonchai และผู้ให้บริการเครือข่าย AIS, True, Dtac, รวมถึง vivo Official Store บนร้านค้าออนไลน์ชั้นนำทั้ง LAZADA, Shopee, JD Central และ Thisshop ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.vivo.com/th
นอกจาก X70 Series 5G แล้ว vivo ยังเปิดตัวหูฟังสุดล้ำ vivo TWS 2 Series โดยจะมีให้เลือกสองรุ่นคือvivo TWS 2 ANC และ vivo TWS 2e สุดยอดหูฟังที่ออกแบบมาให้สามารถใช้งานได้ทุกช่วงเวลา โดยรุ่น vivo TWS 2 ANC มาพร้อมกับระบบตัดเสียงรบกวนอัจฉริยะ พร้อมคุณภาพเสียงคมชัดระดับ Deep-HD Audio ให้คุณภาพเสียงที่สมจริงและมีมิติ มาพร้อมกับดีไซน์โค้งมนทันสมัย น้ำหนักเบาพกพาสะดวก สวมใส่สบายและระบายอากาศได้ดี ใช้งานได้ต่อเนื่องยาวนานถึง 29 ชั่วโมง วางจำหน่ายที่ราคา 2,999 บาทและรุ่น vivo TWS 2e มาพร้อมกับระบบการตัดเสียงรบกวนแบบ Dual-Mic และระบบเสียงเอฟเฟกต์ระดับมืออาชีพจากการทดสอบและปรับปรุงแก้ไข เสียงเอฟเฟกต์ที่แตกต่างกัน 3 แบบ ทั้ง Mega Bass เสียงเบสหนักแน่นทรงพลัง Clear Voice รายละเอียดเสียงร้องที่โดดเด่น และ Clear Highs เพิ่มเสียงความถี่ระดับสูงของเครื่องดนตรี ใช้งานได้ยาวนานต่อเนื่องถึง 30 ชั่วโมง วางจำหน่ายที่ราคา 2,499 บาท
สำหรับผู้สนใจต้องการเป็นเจ้าของ vivo X70 Series 5G พร้อมข้อเสนอสุดพิเศษก่อนใคร สามารถ Pre-Order ได้ตั้งแต่ วันศุกร์ที่ 8 ตุลาคม – 15 ตุลาคม 2564 รับของสมนาคุณรวมมูลค่ากว่า 12,000 บาท ได้แก่ หูฟัง vivo TWS 2e มูลค่า 2,499 บาท, VIP Card มูลค่า 7,999 บาท และ Premium Gift Box มูลค่า 1,999 บาท ที่ vivo Brand Shop ทุกสาขาและตัวแทนจำหน่ายชั้นนำ ทั้ง BaNANA, IT City, CSC, Jaymart, TG FONE, KINGKONG, BKK, แม่วังสื่อสาร, Power Mall, Stamp และ PTE, Advice, Boonchai และผู้ให้บริการเครือข่าย AIS, True, Dtac หรือจองผ่านช่องทางออนไลน์ที่ vivo Official Store บน LAZADA, Shopee, JD Central และ Thisshop
ซีรีส์โดย Netflix เรื่อง My Name เป็นเรื่องราวของหญิงสาวที่ชื่อว่า “จีอู” ที่ตัดสินใจเข้าร่วมแก๊งอาชญากรเพื่อตามล้างแค้นให้กับพ่อของเธอซึ่งถูกฆ่าตาย จุดเริ่มต้นของการล้างแค้น ทำให้เธอต้องละทิ้งตัวตนที่แท้จริงเพื่อปลอมตัวเข้าไปเป็นสายลับของแก๊งค้ายาด้วยชื่อและตัวตนใหม่ในฐานะเจ้าหน้าที่ตำรวจ จีอูได้ย้ายไปทำงานในแผนกปราบปรามยาเสพติดซึ่งทำให้เธอได้เข้าใกล้ความจริงในการตามล่าหาฆาตกรที่ฆ่าพ่อของเธอ ด้วยเรื่องราวการล้างแค้นที่น่าตื่นเต้น บอกเลยว่าซีรีส์เรื่องนี้ มีเสน่ห์และความพิเศษเฉพาะตัวที่คุ้มค่าแก่การรับชมแน่นอน มาดูกันดีกว่าว่ามีประเด็นหรือองค์ประกอบใดบ้าง ที่ทำให้ My Name นั้นเตรียมนั่งแท่นเป็นซีรีส์เรื่องถัดไปที่คุณไม่ควรพลาด!